เครื่องพ่นยา เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ เครื่องพ่นยาไฟฟ้า เลือกใช้อย่างไร

34840 จำนวนผู้เข้าชม |

เครื่องพ่นยาเป็นเครื่องมือการเกษตรที่อำนวยความสะดวกและทุ่นแรงสำหรับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับพืชและดิน หรือการทำสวนต่างๆ นิยมใช้ในการควบคุมและกำจัดวัชพืชต่างๆ เครื่องพ่นยาเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการฉีดพ่นยากำจัดวัชพืช ยาฆ่าแมลง และสารเคมีเกษตรอื่นๆ รวมทั้งปุ๋ยทางใบ ไปที่พืชอีกด้วย

เครื่องพ่นยามี 3 ชนิด ได้แก่

1. เครื่องพ่นยามือโยก เป็นเครื่องพ่นยาที่ใช้แรงอัดหรือแรงดันอากาศที่ใช้ลมเป็นตัวขับเคลื่อนในการทำงาน ซึ่งเครื่องพ่นยามือโยกมีข้อดีดังนี้

- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน ไม่แตกง่าย มีราคาถูก

- ทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี

- มีความจุให้เลือกใช้งานหลากหลาย

แต่มีข้อเสียเครื่องพ่นยามีดังนี้

- จะต้องออกแรงในการโยกเพื่ออัดแรงดัน

- ไม่สามารถพ่นในระยะไกลได้ และใช้ฉีดพ่นพืชที่ไม่สูงมากนัก

สำหรับการใช้งานง่ายเพียงแค่เปิดฝาแล้วเติมน้ำหรือน้ำยาลงไปจากนั้นปิดฝาหมุนเกลียวให้สนิทจับแกนด้านบนโยกขึ้น-ลง แล้วบีบที่ก้านพ่นยาเพื่อทำการพ่นสารเคมี สามารถพ่นสารเคมีในเนื้อที่ประมาณ 8-12 ไร่/วัน และพ่นสารเคมีได้ไกลประมาณ 2-4 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งานของเกษตรกร ชาวไร่ ชาวสวน

            2. เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ หรือเครื่องพ่นยาไฟฟ้า เครื่องพ่นยาชนิดนี้จะใช้แรงขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ ชาร์จไฟบ้าน รุ่นนี้จะเป็นแบบสะพายหลัง สามารถพ่นได้ไกล ส่วนใหญ่อายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะใช้ได้นาน 1-2 ปี เป็นเครื่องพ่นยาที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เป็นตัวขับเคลื่อนในการทำงาน ซึ่งเครื่องพ่นยามีข้อดีดังนี้

- น้ำหนักเบา ไม่ต้องใช้มือในการโยก

- ไม่ต้องเติมน้ำมัน สามารถปรับระดับแรงดันน้ำได้

- เปลี่ยนหัวพ่นได้หลายแบบ ควบคุมการใช้งานง่ายเพียงแค่กดเปิดสวิตช์ก็สามารถใช้งานได้ทันที และสามารถใช้งานต่อเนื่องนานหลายชั่วโมงได้

แต่มีข้อเสียเครื่องพ่นยามีดังนี้

- แต่จะมีราคาที่สูงกว่าเครื่องพ่นยาแบบมือโยก จึงเหมาะนำมาใช้สำหรับพ่นยาฆ่าแมลงและยากำจัดศัตรูในสวนต้นไม้ ผลไม้ เป็นต้น

            3. เครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์ เป็นเครื่องพ่นยาที่ทำงานโดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวขับเคลื่อนในการทำงาน มีให้เลือกใช้งานด้วยกัน 3 แบบ คือ แบบพกพา แบบสะพายหลัง และแบบเครื่องพ่นยา 3 สูบ ซึ่งมีคุณสมบัติการใช้งานที่โดดเด่น คือ

- มีความแข็งแกร่งทนทาน พ่นน้ำยาได้แรงและไกลกว่ารุ่นอื่น

- สามารถปรับอัตราการไหลได้ พ่นได้ทั้งชนิดน้ำ เม็ด และผง สะดวกปลอดภัย ใช้งานได้นาน

แต่มีข้อเสียเครื่องพ่นยามีดังนี้

- มีราคาค่อนข้างสูงกว่าเครื่องพ่นยาชนิดอื่นๆ

เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมใช้ปฏิบัติงานในไร่นา เนื่องจากสามารถทำงานเร็ว เหมาะสำหรับการพ่นสารเคมีในพื้นที่กว้าง เช่น ทุ่งนา สวนดอกไม้ สวนผักหรือสวนผลไม้ขนาดใหญ่ เป็นต้น

คุณสมบัติของเครื่องพ่นยาแต่ละชนิด

            1. เครื่องพ่นยามือโยก จ่ายแรงดันเข้าไปภายในถังเก็บน้ำยา โดยการขยับก้านปั๊มแรงดันขึ้นลงซ้ำๆ แล้วจึงฉีดน้ำยา ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่

            2. เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ หรือเครื่องพ่นยาไฟฟ้า ใช้งานง่ายด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายตั้งแต่การทำสวนจนถึงการฆ่าเชื้อ

            3. เครื่องพ่นยาแบบใช้เครื่องยนต์ ใช้ในงานฉีดพ่นฆ่าเชื้อในพื้นที่กว้าง เช่น ฟาร์มต่างๆ ทุ่งนา ไร่สวน ประสิทธิภาพดีกว่าแบบมือโยกและแบบแบตเตอรี่

วิธีการบำรุงรักษา

1. ล้างน้ำยาที่เหลืออยู่ออกให้หมดด้วยน้ำสะอาดหลังการใช้งาน

2. ชโลมน้ำมันหล่อลื่นที่ส่วนที่เป็นโลหะและบริเวณที่ติดตั้งลูกสูบ

การเลือกซื้อเครื่องพ่นยา

เครื่องพ่นยาควรเลือกซื้อให้เหมาะกับงานว่าเราจะใช้ฉีดพ่นพื้นที่เยอะไหม ถ้าใช้กับพื้นที่มากๆ ควรเลือกใช้แบบใส่รถเข็นช่วยผ่อนแรงได้มากหรือเลือกใช้แบบเครื่องยนต์แล้วใช้สายยาวๆ ต่อ แต่ถ้าเอาไว้ฉีดพ่นเฉพาะงาน ฉีดพ่นฮอร์โมนธรรมดาจำนวนไม่เยอะก็ใช้แบบมือโยกแบบสะพายหลังได้ มีขนาดถังบรรจุถังใหญ่บรรจุน้ำได้มาก แต่น้ำหนักย่อมมากตาม ถังเล็กใช้สะดวก น้ำหนักไม่มาก เหมาะกับพื้นที่น้อยแต่ถ้าใช้แบบแปลงใหญ่ๆ นาข้าว ก็ควรใช้แบบแบตเตอรี่หรือเครื่องยนต์ไปเลยจะได้คุ้มค่า เครื่องพ่นยาจะมีตั้งแต่ขนาด 1 ลิตรขึ้นไปถึงขนาดสูงสุด 50 ลิตร